Baka-Baka Board
ขอต้อนรับ ทุกท่าน
เข้าสู่Baka-Baka Board
ศุนย์ ไร้ขีด จำกัด
Baka-Baka Board
ขอต้อนรับ ทุกท่าน
เข้าสู่Baka-Baka Board
ศุนย์ ไร้ขีด จำกัด
Baka-Baka Board
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Baka-Baka Board

แหล่งพบปะพูดคุย รวมรวมเรื่องราวต่างๆรอบตัว ทั้งคุยเรื่องทั่วไป เกร็ดความรู้ เรื่องเล่าเก่าๆที่น่าจดจำ และโชว์ผลงานที่สร้างขึ้นเอง
 
บ้านGalleryค้นหาLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)
Baka Weather
Baka calendar
Latest topics
» Bakane แก๊งป่วนชวนเที่ยวป่า reanimation
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) EmptyFri Jun 29, 2012 2:39 pm by Tuta39

» Bakane Series
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) EmptySat May 05, 2012 3:32 pm by Tuta39

» นาซ่า กับ ดาว(ดวงใหม่)ที่เหมือนโลกมากที่สุด
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) EmptyMon Nov 28, 2011 8:23 pm by Tuta39

» ต่อนิทานภาค2
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) EmptyWed Nov 23, 2011 4:59 pm by Tuta39

» รวม signature+emoticon โดยข้าพเจ้าเอง [เก่าละ]
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) EmptyMon Nov 21, 2011 3:11 pm by Tuta39

» ลองทำดูนะ แม่นมาก
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) EmptySun Nov 20, 2011 6:02 pm by Tuta39

» Super Smash Flash (White)
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) EmptySun Nov 20, 2011 4:01 pm by Tuta39

» ทดสอบ (ความโง่) กัน!!!
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) EmptySun Nov 20, 2011 3:57 pm by Tuta39

» ทดสอบ (ความโง่) กัน!!!
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) EmptySun Nov 20, 2011 3:56 pm by Tuta39

ค้นหา
 
 

Display results as :
 
Rechercher Advanced Search

 

 เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1)

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
Tuta39

Tuta39


จำนวนข้อความ : 182
Join date : 13/05/2011
Age : 27

Character
Level:
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) Left_bar_bleue35/100เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) Empty_bar_bleue  (35/100)
HP:
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) Left_bar_bleue100/100เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) Empty_bar_bleue  (100/100)
ยศ: ผู้คุมระบบ

เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1)   เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) EmptySat Oct 08, 2011 2:59 pm

เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี (ตอนที่1)

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า พ่อแม่ทุกคนคงหวังให้ลูกเรียนเก่ง เรียนดี และมีความสุขในการเรียน โดยเฉพาะหากตอนยังเล็ก ลูกก็มีพัฒนาการที่ดี ดูฉลาดเฉลียวสมวัย เมื่อเข้าสู่โรงเรียนพ่อแม่ก็คงคาดหวังให้ลูกทำได้ไม่น้อยกว่าเพื่อน แต่เมื่อไรที่เด็กทำไม่ได้ เช่นอ่านหนังสือไม่ได้สักที เขียนพยัญชนะก็ผิดซ้ำๆ จนทั้งครู พ่อแม่ ก็ทุกข์ใจ และอาจพาลคิดไปว่าเด็กไม่พยายาม หรือโง่ แต่คนที่ทุกข์ใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นตัวเด็กเอง
ทักษะด้านการเรียนนั้น ต้องอาศัย การอ่าน เขียน และการคำนวณ เป็นหลัก หากเด็กคนใดที่มีปัญหาชัดเจนในทักษะเหล่านี้ แม้จะพยายามมากกว่าคนอื่นๆ แล้ว ก็ยังไม่สามารถทำได้เท่าเทียมกับเพื่อนๆ อาจเกิดจากภาวะการเรียนรู้บกพร่อง หรือ แอลดี (L.D. = Learning disability)

L.D. คืออะไร ?
LD หรือ Learning disability คือ ปัญหาการเรียนที่เกิดจากการทำงานของสมองในการรับข้อมูล ใช้ข้อมูล เก็บข้อมูล หรือ ส่งข้อมูลต่างๆ ทำให้เกิดปัญหาได้ในด้านต่างๆได้แก่ การอ่าน การเขียน การฟัง การพูด การให้เหตุผล หรือ การคำนวณ แต่ปัญหาที่เกิดต้องไม่ได้เป็นผลจากความบกพร่องทางการได้ยิน การมองเห็น หรือ การใช้กล้ามเนื้อต่างๆ
ภาวะแอลดีนั้น แม้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักแพร่หลาย แต่จริงๆแล้วเป็นปัญหาที่มีมานาน พบได้ไม่น้อย เคยมีงานวิจัยที่ดูความชุกของภาวะนี้ พบว่ามีมากถึง ประมาณ 5% ของเด็กวัยเรียนทั้งหมด กล่าวคือ ในทุกชั้นเรียนที่มีเด็กประมาณ 50 คน อาจพบเด็กที่เป็นแอลดีได้ถึง 2-3 คน โดยความรุนแรงก็จะแตกต่างกันไป โดยขึ้นกับปัจจัยอื่นๆด้วย

L.D. เกิดจากอะไร ?
เกิดได้จากหลายสาเหตุ หรือบางครั้งก็บอกสาเหตุไม่ได้ สาเหตุที่ทราบกันในปัจจุบันคือ

กรรมพันธุ์ อาจมีพ่อแม่ พี่น้อง หรือเครือญาติที่มีปัญหาการเรียนคล้ายกัน
คลอดก่อนกำหนด หรือน้ำหนักแรกคลอดน้อย
เคยได้รับการบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยบางอย่าง เช่น การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง การติดเชื้อในระบบประสาทเช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือ ภาวะพิษจากสารตะกั่ว

จะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กของคุณเป็น L.D.
บางครั้งเราไม่สามารถบอกได้ชัดเจน แต่จะมีสัญญาณเตือนที่บอกว่าเด็กกำลังต้องการความช่วยเหลือ
สัญญาณนั้นอาจเห็นตั้งแต่วัยเด็กเล็กเช่น วัยก่อนเข้าโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่อาจจำได้ว่าลูกมีพัฒนาการที่ช้าบางอย่าง เช่น

พูดช้า อายุ 2 ขวบครึ่ง เด็กยังไม่สามารถพูดเป็นประโยคสั้น ๆ ได้ อายุ 3 ขวบ ยังไม่สามารถพูดให้ผู้ใหญ่ฟังเข้าใจได้เกิน 50%
การทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อมือช้า เช่น อายุ 5 ขวบ ยังติดกระดุมไม่ได้ ใช้กรรไกรตัดกระดาษไม่เป็น วาดรูป วงกลม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยมยังไม่ได้
ความสนใจสั้น เช่น วัย 3-5 ขวบ ยังนั่งนิ่ง ๆ ฟังเรื่องสั้นๆไม่ได้ หรือมีความสนใจในกิจกรรมต่าง ๆ ได้ไม่นาน

ปัญหาจะเห็นได้เด่นชัดขึ้น เมื่อเริ่มเข้าสู่ระบบโรงเรียน ในวัยเรียนและวัยรุ่น
ปัญหาที่ครูและผู้ปกครองอาจสังเกตเห็นคือ

เด็กจะดูเฉลียวฉลาด แต่ผลการเรียนต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
ทำตามคำสั่งที่ได้รับไม่ถูกต้อง ดูเหมือนไม่เข้าใจคำสั่ง แม้จะตั้งใจฟัง
ไม่สามารถจัดระเบียบงานของตัวเองได้
ไม่สามารถเรียนรู้และจดจำสิ่งต่าง ๆ
มีปัญหากับบางวิชาเป็นพิเศษ เช่น เลข การอ่าน การสะกดคำ แต่ดูฉลาดในวิชาอื่นๆ
ไม่สามารถเข้ากับเพื่อนๆ หรือมีปัญหาในการสื่อสารกับคนอื่นๆ
มีปัญหาในการออกเสียงคำ อ่านคำ สะกดคำ
มีปัญหา การเขียน ไม่สามารถเขียนให้เข้าใจชัดเจน และอาจมีปัญหาลายมือไม่สวย
ไม่มีสมาธิในการทำการบ้านให้เสร็จ หรือฝันกลางวัน

เด็ก L.D. เหมือนกันทุกคนไหม
ดังที่ได้กล่าวว่า ทักษะการเรียนนั้น มีหลายด้าน เช่นการอ่าน เขียน คำนวณ การให้เหตุผล ซึ่งเด็กที่มีปัญหาแอลดีนั้น อาจมีปัญหาเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หรือมีหลายด้านร่วมกันก็ได้ แอลดีชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด คือประมาณร้อยละ 80 ของเด็กแอลดีทั้งหมด คือ ปัญหาด้านการอ่าน หรือที่เคยเรียกกันว่า Dyslexia โดยลักษณะของแอลดีแต่ละประเภท มีดังนี้

ปัญหาการอ่าน ( reading disorder )

ไม่สามารถจะจำชื่อและเสียงของตัวอักษรต่างๆได้
ไม่เข้าใจความหมายของคำที่อ่าน
ไม่เข้าใจว่าคำประกอบด้วยเสียงจากตัวอักษรต่าง ๆ
ไม่สามารถอ่านออกเสียงคำต่างๆได้เร็วและถูกต้องพอ
มีปัญหาในการสะกดคำ
ใช้เวลานานในการอ่านคำที่รู้จักอยู่แล้ว

ปัญหาการเขียน ( writing (graphomotor) disorder)

มีปัญหาในการใช้ดินสอหรือปากกา
ไม่สามารถจำได้ว่าตัวอักษรต่างๆมีรูปร่างอย่างไร
มีปัญหาในการวาดรูปทรง ลายเส้นต่างๆตามแบบที่ให้ หรือเว้นช่องว่างผิดที่
มีปัญหาในการเขียนระบายความคิดของตัวเอง
มีปัญหาในการเรียบเรียงความคิดและเขียนออกมา

ปัญหาในการคำนวน ( math disorder)

ไม่เข้าใจระบบตัวเลขเช่น ค่าของตัวเลข ปริมาณ และลำดับของตัวเลข
ไม่เข้าใจเศษส่วน เปอร์เซ็น เรขาคณิต
ไม่เข้าใจในเรื่องเวลา เงิน มาตราชั่งตวงวัดต่างๆ

ปัญหาการเรียนที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษา ( Nonverbal L.D.)

มีปัญหาในการเข้าใจท่าทางของผู้อื่น ภาษาทางกาย กาละเทศะ
มีปัญหาเรื่องการทำงานประสานกันของกล้ามเนื้อ

ปัญหาการเรียนที่เกี่ยวกับการพูดและภาษา ( speech and language disorder)

มีปัญหาในการเข้าใจและใช้ภาษา
มีปัญหาในการเข้าใจคำสั่งใหม่ๆหรือข้อมูลใหม่ ๆ

ปัญหาการเรียนที่เกี่ยวกับกระบวนการฟัง ( central auditory processing disorder )

ได้ยินแต่ไม่เข้าใจและไม่สามารถจดจำสิ่งที่ได้ยินได้
มีปัญหาในการเรียนรู้จากการฟัง โดยเฉพาะถ้ามีเสียงรบกวน

จะเห็นได้ว่าเด็กที่มีปัญหาเช่นนี้ จริงๆพบได้ไม่น้อยเลย และถ้าหากเขาได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้อง ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาได้มาก หรือเพียงแค่มีคนเข้าใจว่าเขาตั้งใจที่สุดแล้ว ไม่ใช่ความผิดของเขา ก็ช่วยประคับประคองจิตใจของเด็กได้มากแล้ว แต่หากเด็กกลุ่มนี้ถูกมองข้ามไป เพราะผู้ใหญ่คิดเพียงว่า “เด็กมันคงโง่เอง” หรือถูกมองเป็น “เด็กมีปัญหา เด็กขี้เกียจ” และถูกตำหนิดุด่าว่ากล่าว ก็จะเกิดปัญหาจิตใจตามมา ซึ่งไม่ส่งผลดีกับใครเลยทั้งตัวเด็กเอง และคนรอบข้าง

ที่มาโดย http://www.tesaban7.ac.th/docu1.html เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1) 321371_271474272879625_199438763416510_1184438_7432000_s
ที่มาของภาพ https://th-th.facebook.com/ramapsychiatry?sk=wall
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
เรียนไม่เก่งอย่างไรจึงเรียกว่าแอลดี ("LD"ตอนที่1)
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Baka-Baka Board :: สุดยอดสาระ : รวมเรื่องเกร็ดความรู้สาระต่างๆ :: นอกรั้วรอบโลก-
ไปที่: