Baka-Baka Board
ขอต้อนรับ ทุกท่าน
เข้าสู่Baka-Baka Board
ศุนย์ ไร้ขีด จำกัด
Baka-Baka Board
ขอต้อนรับ ทุกท่าน
เข้าสู่Baka-Baka Board
ศุนย์ ไร้ขีด จำกัด
Baka-Baka Board
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Baka-Baka Board

แหล่งพบปะพูดคุย รวมรวมเรื่องราวต่างๆรอบตัว ทั้งคุยเรื่องทั่วไป เกร็ดความรู้ เรื่องเล่าเก่าๆที่น่าจดจำ และโชว์ผลงานที่สร้างขึ้นเอง
 
บ้านGalleryค้นหาLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)
Baka Weather
Baka calendar
Latest topics
» Bakane แก๊งป่วนชวนเที่ยวป่า reanimation
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptyFri Jun 29, 2012 2:39 pm by Tuta39

» Bakane Series
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptySat May 05, 2012 3:32 pm by Tuta39

» นาซ่า กับ ดาว(ดวงใหม่)ที่เหมือนโลกมากที่สุด
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptyMon Nov 28, 2011 8:23 pm by Tuta39

» ต่อนิทานภาค2
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptyWed Nov 23, 2011 4:59 pm by Tuta39

» รวม signature+emoticon โดยข้าพเจ้าเอง [เก่าละ]
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptyMon Nov 21, 2011 3:11 pm by Tuta39

» ลองทำดูนะ แม่นมาก
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptySun Nov 20, 2011 6:02 pm by Tuta39

» Super Smash Flash (White)
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptySun Nov 20, 2011 4:01 pm by Tuta39

» ทดสอบ (ความโง่) กัน!!!
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptySun Nov 20, 2011 3:57 pm by Tuta39

» ทดสอบ (ความโง่) กัน!!!
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptySun Nov 20, 2011 3:56 pm by Tuta39

ค้นหา
 
 

Display results as :
 
Rechercher Advanced Search

 

 ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
Tuta39

Tuta39


จำนวนข้อความ : 182
Join date : 13/05/2011
Age : 27

Character
Level:
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Left_bar_bleue35/100ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Empty_bar_bleue  (35/100)
HP:
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Left_bar_bleue100/100ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Empty_bar_bleue  (100/100)
ยศ: ผู้คุมระบบ

ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”    ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptySun Jul 24, 2011 6:24 pm

นักวิทยาศาสตร์นาซาเคลียร์ความเชื่อ “ดาวนิบิรุ” พุ่งชนโลกดับ กวาดล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์หายเกลี้ยงในปี 2012 ชี้ไม่มีดาวดังกล่าวอยู่ในระบบสุริยะวงนอก คาดจุดเริ่มต้นความเชื่อมาจากหญิงผู้อ้างว่ารับสัญญาณจากเอเลี่ยนมาเตือนผู้คน และเคยทำนายว่าโลกจะพบจุดในปี 2003 แต่กลับไม่เป็นจริง
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  554000009194602

ความเชื่อเรื่องโลกจะถึงจุดจบเมื่อถูกดาว “นิบิรุ” (Nibiru) พุ่งชนแพร่กระจายอยู่ในโลกออนไลน์มาระยะหนึ่ง กระทั่งสเปซด็อทคอมได้หยิบประเด็นนี้มาไขข้อเท็จจริง โดยได้ความเห็นจาก เดวิด มอร์ริสัน (David Morrison) นักดาราศาสตร์ดาวเคราะห์จากศูนย์วิจัยเอมส์ (Ames Research Center) องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) และนักวิทยาศาสตร์อาวุโสประจำสถาบันชีววิทยาอวกาศ (Astrobiology Institute) ของนาซา

บ้างว่าโลกจะถูกดาวเคราะห์ดังกล่าวพุ่งชนในปี 2012 บ้างก็บอกว่าในปี 2011 ซึ่งมอร์ริสันประมาณว่ามีเว็บไซต์ที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ราว 2 ล้านเว็บไซต์ ส่วนตัวเขาเองยังได้รับอีเมลที่สอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเฉลี่ยถึงวันละ 5 ฉบับ โดยได้รับข้อความจากเด็กๆ ที่บางคนอายุเพียง 11 ขวบ บอกว่าพวกเขากำลังไม่สบายใจและกำลังตัดสินใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากวันโลกาวินาศที่กำลังจะมาถึง

แล้วอะไรคือต้นตอของความตระหนกต่อ “ดาวนิบิรุ” ที่นักดาราศาสตร์ทั้งหลายยืนยันว่าไม่มีอยู่จริง? ทางสเปซด็อทคอมระบุว่า แนวคิดเรื่องวันโลกแตกเนื่องจากถูกดาวเคราะห์พุ่งชนนี้น่าจะเสนอขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1995 โดย แนนซี ไลเดอร์ (Nancy Lieder) ที่ขนามนามตัวเองว่า “ผู้รับการติดต่อ” (contactee) ซึ่งอ้างว่าเธอสมองของเธอสามารถรับข้อความของมนุษย์ต่างดาวจากระบบดาวเซตาเรติคูลิ (Zeta Reticuli) ได้

ในเว็บไซต์ของไลเดอร์ชื่อ “เซตาทอล์ก” (ZetaTalk) นั้นได้แถลงว่า เธอคือผู้ถูกเลือกให้มาเตือนมนุษยชาติถึงการพุ่งชนของดาวเคราะห์ที่จะมาถึงในไม่ช้า ซึ่งจะกวาดล้างมนุษย์โลกไปในหมดในปี 2003 แต่สเปซด็อทคอมระบุว่า เมื่อหายนะดังกล่าวไม่เกิดขึ้น สาวกของเธอก็เลือกเอาปี 2012 เป็นกำหนดเวลาที่ดาวนิบิรุจะพุ่งชนโลก และตรงกับคำทำนายอื่นๆ ซึ่งให้ความสำคัญกับการสิ้นสุดของปฏิทินชาวมายา

เดิมทีไลเดอร์เรียกดาวเคราะห์ที่จะนำพาหายนะมายังโลกว่า “ดาวเคราะห์เอ็กซ์” (Planet X)และตอนหลังได้โยงดาวเคราะห์ดังกล่าวเข้ากับดาวเคราะห์ดวงที่ 12 ในระบบสุริยะ ตามที่ระบุในหนังสือ “ดาวเคราะห์ดวงที่ 12” (The 12th Planet) ของนักเขียนอเมริกันชื่อ เซชาเรีย ซิทชิน (Zecharia Sitchin) ซึ่งตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์ (Harper) เมื่อปี 1976

ในหนังสือของซิทซินนักเขียนผู้มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 1920-2010 อ้างถึงชาวสุเมเรียนโบราณว่า ได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ชื่อ “นิบิรุ” ว่าเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 12 ของระบบสุริยะ และเหวี่ยงเข้าใกล้โลกทุก 3,600 ปี ซึ่งแท้จริงแล้วมนุษย์นั้นมีวิวัฒนาการมาจากดาวดวงนี้ และได้มาตั้งถิ่นฐานบนดาวเคราะห์โลกระหว่างที่ผ่านเข้าใกล้โลก

อย่างไรก็ดี ปราชญ์ทางด้านประวัติศาสตร์และภาษากล่าวว่า ซิทชินนั้นได้แปลอักษรโบราณผิดเพี้ยนอย่างมาก โดยชาวสุเมเรียนเชื่อว่ามีดาวเคราะห์เพียง 5 ดวงเท่านั้น ไม่ใช่ 12 ดวง และพวกเขาไม่ได้เชื่อว่ามนุษย์กระโดดจากดาวที่เรียกว่า “นิบิรุ” มาตั้งถิ่นฐานบนโลก ยิ่งกว่านั้นนักดาราศาสตร์ยังได้บ่งชัดว่า วงโคจรดาวเคราะห์ของดาวนิบิรุแบบที่ซิทชินเสนอนั้นไม่มีอยู่จริง ไม่มีวัตถุในอวกาศไหนที่มีวงโคจรซึ่งเหวี่ยงเข้ามายังระบบสุริยะชั้นในทุกๆ 3,600 ปี และยังอยู่ถัดจากดาวพลูโต ซึ่งหากมีจริงดาวเคราะห์ดวงนั้นควรจะถูกดูดเข้ามาหรือไม่ก็ถูกผลักออกไปจากระบบสุริยะ

ถึงอย่างนั้นหนังสือของซิทชินก็แปลออกมาถึง 25 ภาษา และขายได้ทั่วโลกหลายล้านเล่ม และทฤษฎีดาวเคราะห์พุ่งชนโลกของไลเดอร์ก็รับเอาชื่อดาวนิบิรุไปเป็นชื่อดาวเคราะห์ที่จะทำลายล้างโลก หลายคนที่เชื่อว่าวันสิ้นโลกจะเกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดปฏิทินชาวมายาในปี 2012 ก็ผูกโยงคำทำนายเรื่องดาวเคราะห์นิบิรุพุ่งชนโลกให้เป็นหายนะที่จะนำพาเราไปพบจุดจบ

สิ่งที่เป็นจุดบอดสำหรับคำพยากรณ์วันโลกาวินาศก็คือดาวเคราะห์นิบิรุเอง เพราะไม่มีดาวเคราะห์ขนาดใหญ่และมีลักษณะรุกรานโลกอยู่ในระบบสุริยะวงนอกที่จะเป็นดาวนิบิรุตามความเชื่อ ขณะที่นักทฤษฎีสมคบคิด (conspiracy theorist) ได้ตัดสินว่า แท้จริงแล้วดาวหางขนาดเล็กที่ชื่อ “อีเลนิน” (Elenin) ซึ่งจะผ่านใกล้โลกที่สุดในเดือน ต.ค.2011 คือดาวนิบิรุ แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนระบุว่า ดาวหางอีเลนินจะไม่เข้าใกล้โลกเกินกว่าระยะ 100 เท่าของระยะทางระหว่างโลกและดวงจันทร์

“ความจริงคือคนเหล่านี้ได้เปลี่ยนเรื่องราวของชาวสุเมเรียนไปหมด ตัวอย่างเช่น นิบิรุไม่ใช่เทพเจ้าของชาวสุเมเรียนอย่างที่กล่าวอ้าง หรือไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่คาดกันว่าจะโคจรกลับมาใกล้โลกในปลายปี 2012 แต่ชื่อดาวดวงนี้ก็ได้กลายเป็นคำติดปากสำหรับหายนะที่มาจากนอกโลกไปแล้ว” มอร์ริสันแจงแก่สเปซด็อทคอมผ่านอีเมล

ข่าวลือเรื่องดาวหางอีเลนินได้แพร่กระจายเมื่อต้นปีนี้ โดยนักวิทยาศาสตร์อาวุโสจากนาซากล่าวว่า การที่ดาวหางดวงนี้เข้ามาใกล้โลกได้ถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นเหตุให้แกนโลกขยับไป 3 องศาเมื่อเดือน ก.พ. และกระตุ้นให้เกิดแผนดินไหวที่ชิลี จากนั้นทำให้ขั้วโลกขยับมากพอที่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยกลุ่มคนที่เชื่อข่าวลือยังเพิกเฉยต่อต้อเท็จจริงว่าแผ่นเปลือกโลกคือสาเหตุของแผ่นดินไหว และยังบอกอีกว่าดาวหางดังกล่าวส่งแรงโน้มถ่วงและสนามแม่เหล็กไฟฟ้ารุนแรงมายังโลกของเรา

“เมื่อนักวิทยาศาสตร์ชี้แจงว่า ดาวหางดังกล่าวซึ่งเป็นน้ำแข็งก้อนกลมๆ ที่มีความกว้างประมาณ 5 กิโลเมตรนั้นไม่มีสนามแม่เหล็กและจะไม่ผ่านเข้าใกล้โลกมากนัก อีกทั้งแผ่นเปลือกโลกต่างหากที่เป็นสาเหตุของแผ่นดินไหว ไม่ใช่ ดาวหาง ก็มีข่าวลืออีกว่านาซาปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับดาวหางอีเลนิน กล่าวอย่างประชดนะ สำหรับใครที่มั่นใจว่าดาวหางดวงนี้เป็นสาเหตุของแผ่นดินไหว นั่นแสดงว่าอีเลนินไม่ใช่ดาวหาง แต่เป็นดาวรุกรานที่มีมวลมหาศาลและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง” มอร์ริสันกล่าว

นักทฤษฎีสมคบคิดยังคงคาดเดาต่อไปว่าดาวหางก็คือดาวเคราะห์นิบิรุที่อำพรางมา โดยอาจเป็นดาวเคราะห์หรือดาวแคระน้ำตาลขนาดมหึมา ขณะที่ความจริงนั้นเราสามารถมองเห็น “โคมา” (coma) ที่ปกคลุมนิวเคลียสของดาวหาง รวมถึงนิวเคลียสและหางยาวๆ ที่ระเหิดจากน้ำแข็งของดาวหางอีเลนินได้ ซึ่งหากดาวหางดวงนี้เป็นดาวแคระน้ำตาลอย่างที่กล่าวอ้าง มอร์ริสันกล่าวว่า มันต้องไม่มีโคมาหรือหาง เพราะก๊าซจะไม่สามารถหนีออกจากแรงโน้มถ่วงของดาวได้

ยิ่งกว่านั้นหากดาวหางอีเลนินมีขนาดใหญ่โตมากจริงๆ เราควรจะได้เห็นผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวงโคจรของดาวเคราะห์โดยเฉพาะดาวอังคารและโลก แต่มอร์ริสันกล่าวว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในวงโคจรของดาวเคราะห์เหล่านั้น และถ้าเป็นดาวแคระน้ำตาลจริงก็ยิ่งง่ายที่จะถูกพบด้วยเทคโนโลยีสำรวจอวกาศต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน แม้ดาวดวงนั้นอยู่ในระบบสุริยะชั้นนอกก็ตาม เขายังบอกไปถึงคนที่กังวลต่อเรื่องนี้ว่า หากเป็นเรื่องจริงควรจะเป็นข่าวในสื่อทั่วไป ไม่ใช่แค่โพสต์ในบางเว็บไซต์
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Image

“ไม่ใช่ทุกคนที่กล่าวอ้างในยูทูบ (YouTube) จะเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือทำงานในนาซา แต่เราก็ไม่มีวิธีง่ายๆ ที่จะแยกแยะความจริงออกจากเรื่องเท็จ ผมแปลกใจที่มีคนเชื่อเรื่องดาวนิบิรุซึ่งไร้เหตุผลนี้ เพราะหลายเว็บไซต์ที่เผยแพร่เรื่องนี้ก็ขายทั้งหนังสือและเทปเกี่ยวกับดาวดวงนี้ หรือแม้แต่อุปกรณ์เอาตัวรอดด้วย ซึ่งผมคิดว่าเป็นการหาประโยชน์จากคนที่ไม่สามารถแยกแยะแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือกับคนที่หลอกลวงได้ และนี่เป็นปัญหามากในเยาวชน และเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงโกรธคนเหล่านั้นมากที่เล็งเป้าหมายไปยังเด็กๆ” มอร์ริสันกล่าว

ที่มา http://www.manager.co.th/science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000086518
creditsโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ขึ้นไปข้างบน Go down
Tuta39

Tuta39


จำนวนข้อความ : 182
Join date : 13/05/2011
Age : 27

Character
Level:
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Left_bar_bleue35/100ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Empty_bar_bleue  (35/100)
HP:
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Left_bar_bleue100/100ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Empty_bar_bleue  (100/100)
ยศ: ผู้คุมระบบ

ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: x planet   ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  EmptySun Jul 24, 2011 6:28 pm

ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  1_display
ภาพดาวที่คาดว่าจะเป็นดาวนิบิรู
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”  1_display
เขาว่าสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้แล้วในตอนนี้
ที่ออสเตรเลีย ชัดสุด
(ลองใช้โปรแกรม googleSky ดู จะเห็นวงแดงๆเด่นออกมา นั่นคือดาวที่เขาคาดว่าคงจะเป็น)
โดย X planet นั้น คือดาวเคราะห์ดวงที่10(ถัดจากเนปจูน แต่ไม่ใช่พลูโต ปัจจุบันคงเป็นดวงที่9แทน)
affraid
ที่มา http://atcloud.com/stories/66531
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
ความจริงของ“ดาวนิบิรุ”
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Baka-Baka Board :: สุดยอดสาระ : รวมเรื่องเกร็ดความรู้สาระต่างๆ :: นอกรั้วรอบโลก-
ไปที่: