ปรากฏการณ์ธรรมชาติ
เมฆจานบิน หรือ
Lenticular เป็นภาษาลาติน มีความหมายว่า รูปทรงเลนส์ (Lens - Shaped )
เมฆรูปทรงเลนส์ ( Lenticular cloud ) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติแสนประหลาดและสวยงาม มันช่างดูคล้ายจานบินไม่มีผิด และหากปรากฏการณ์เมฆรูปทรงเลนส์เกิดขึ้นในสมัยก่อน รูปภาพวัตถุบินลึกลับต่างๆที่มีการจารึกไว้ก็อาจเป็นปรากฏการณ์นี้ก็เป็นไปได้
สาเหตุของการเกิด เมฆจานบิน
เมื่ออากาศชื้นอิ่มตัวพัดผ่านยอดเขาสูงหรือบริเวณภูเขา
จะทำให้เกิดการไหลของกระแสอากาศชื้นแบบลูกคลื่นขนาดใหญ่หลายระลอกขึ้น
เมื่ออากาศชื้นถูกพัดไหลขึ้นสูงขึ้นเรื่อยตามระลอกคลื่นอุณหภูมิจะค่อยลดลงเรื่อยจนถึงจุดที่ทำให้อากาศชื้นเริ่มกลั่นตัว ทำให้เกิดปรากฏการณ์เมฆจานบิน
เมื่อเมฆไหลลงมาต่ำเรื่อยๆอุณหภูมิจะสูงขึ้น เมฆจะค่อยๆระเหยกับไปอยู่ในสภาพของอากาศชื้นอีกครั้ง
-----------------------------------------------------------------------
Mammatus Clouds ปรากฏการณ์ธรรมชาติเมฆสวยที่สุดในโลก โดยเป็นเมฆแมมมะทูส หรือเมฆตะปุ่มตะปํ่า (Bumpy clouds) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่จะทำให้เมฆเกิดเป็นเซล เป็นปุ่มเล็กปุ่มน้อย คล้ายถุงห้อยลงมาจากท้องฟ้า โดยคำว่า
"mammatus" มาจากภาษาลาติน mamma แปลว่าเต้านม
ซี่งมาจากการที่ก้อนเมฆมีลักษณะคล้ายเต้านมของวัว โดยแต่ละปุ่มมีขนาดใหญ่ 1
- 3 กิโลเมตร ยื่นยาวลงมาประมาณ 0.5 กิโลเมตร เรียงรายยาวหลายร้อยกิโลเมตร
ปรากฏการณ์นี้อาจเกิดขึ้น 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
ปรากฏการณ์เมฆแมมมะทูส มีส่วนเชื่อมโยงกับการเกิดพายุใหญ่ หรือก่อนเกิดพายุทอร์นาโด-----------------------------------------------------------------------
Penitentes ทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากรูปแบบการก่อตัวของหิมะที่พบได้ในบริเวณที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆ โดยมีรูปแบบเป็นแท่งสามเหลี่ยมเรียวยาวสูง
สาเหตุของการเกิดปรากฏการณ์นี้ก็มีแสงอาทิตย์เป็นที่ทำให้เกิดรูปทรงประหลาดนี้
โดยแสงอาทิตย์จะทำให้เกิดรอยบุ่มเป็นจุดๆ กระจายตัวไปทั่วทั้งพื้นหิมะ
และรอยบุ่มนี้ก็จะมีแอ่งน้ำเล็กขังอยู่
และอ่างน้ำนี้เมื่อถูกแสงอาทิตย์ก็จะทำตัวคล้ายเลนส์รวมแสงส่องลงไปลึกขึ้นๆ เรื่อยๆ จนเกิดเป็นทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว
อันเนื่องมาจากรูปทรงของน้ำแข็งนี้คล้ายกับหมวกของพวกนักบวชทรงแหลมสูง
การค้นพบ ทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว โดยทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาวนี้เป็นที่รู้จักของบุคคลภายนอกโดยจากงานเขียนของดาวิน ในปี 1839
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 1835 โดยเขาได้เดินทางจากเมืองSantiago de Chile
ไปยังเมือง Argentinian city of Mendoza
และระหว่างทางเขาก็ได้พบกับทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาวเข้าและเขาได้อธิบายปรากฏการณ์นี้ด้วยสมมุติฐานว่า
เิกิดจากลมจากเทือกเขาเอนดีส ( Andes ) และต่อมาในปี 1954-1965 Lliboutry
ที่ได้ทำการศึกษาปรากฏการณ์นี้มีกุญแจสำคัญคือ
ความแตกต่างของการระเหยตัวของหิมะ ซึ่งเกิดจากการที่ที่น้ำเกิดการกลั่นตัวภายใต้จุดเยือกแข็ง
จึงทำให้น้ำมีความบริสุทธิ์มาก และน้ำที่บริสุทธิ์มากก็ต้องการพลังงานที่สูงกว่าในการละลายตัว ทำให้เกิดบริเวณที่น้ำแข็งไม่บริสุทธิ์
เกิดการระเหยตัวเป็นแอ่งน้ำเล็กๆกระจายตัวไปทั่วพื้นน้ำแข็ง
และละลายลึกลงเรื่อยๆจนเกิดเป็นทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาวขึ้น
-----------------------------------------------------------------------
Volcanic Lightning เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอันมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเกิดภูเขาไฟระเบิด จะเกิดพายุสายฟ้าขึ้นในเถ้าภูเขาไฟที่กำลังพวยพุ่งขึ้นเหนือภูเขาไฟ โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งสมมุติฐานว่า ปรากฏการณ์โวลเคนิกไลทนิ่งนั้นน่าจะคล้ายการเกิด พายุสายฟ้า (Thunderstorms) และในการสัมนาเกี่ยวกับสภาวะอากาศ TPOD เมื่อ 17 กันยายน 2004 เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้สัมนากันว่าปรากฏการณ์นี้
อาจเกิดจากการที่อนุภาคของเถ้าภูเขาไฟเกิดการพุ่งชนกัน ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตขึ้นในอนุภาคของเถ้าภูเขาไฟ และ
เป็นเหตุให้เกิดฟ้าผ่าขี้น ขณะเกิดภูเขาไฟระเบิด และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มี
สมมุติฐานใหม่ว่าอาจเกิดจากที่เม็กม่าได้ปลดปล่อยความชื้นออกมาการที่ภูเขาไฟระเบิดบางครั้งได้ปล่อยเถ้าภูเขาไฟจำนวนมากออกมา แต่เกิดฟ้าผ่าเพียงเล็กน้อย หรือไม่เกิดฟ้าผ่าเลย แต่กลับกันกับการที่ภูเขาไฟระเบิดบางครั้งที่มีเถ้าภูเขาไฟน้อยๆ แต่กลับเกิดฟ้าผ่าจำนวนมาก หินภูเขาไฟที่พ่นออกมาสามารถอธิบายได้ว่า
ถ้าหินภูเขาไฟมีความต้านทานไฟฟ้าสูง จะมีโอกาสที่จะเกิดปรากฎการณ์โวลเคนิกไลทนิ่งมากขึ้น จึงอาจจะอธิบายได้จากอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน อย่างสายไฟไส้ทองแดง
(ทองแดงมีความต้านทานไฟฟ้าต่ำ) สายไฟจะไม่เกิดความร้อนและประกายไฟขึ้น
แต่ถ้ากระแสไฟฟ้าขนาดเท่ากันเมื่อไหร่ผ่านทังค์สแตน ( ไส้หลอดไฟ )
จะเห็นว่าไส้หลอดจะเกิดแสงสว่าง และความร้อนขึ้น